จากเรื่องราวของความรักมากมายที่ถูกเรียงร้อยถ่ายทอด ผ่านคำบอกเล่า จนกลายมาเป็นตัวอักษร เสียงเพลง Club Friday SHOW สำหรับ
“ท็อป พิพัฒน์ & นุ่น ศิรพันธ์” ได้มาเปิดใจกลางรายการ ชีวิตรักตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน กว่าจะผ่านช่วงนั้นมาได้ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง
ถึงคราวต้องเลิกกัน สาวนุ่นร้องไห้ไปหลายเดือน เผยแม่บอกว่า “ตั้งแต่แม่คลอดนุ่นมาแม่ไม่เคยทำให้นุ่นร้องไห้ขนาดนี้เลย ” และพยายามโทรหา
แต่ท็อปกับบอกตลอดว่า “นุ่นอย่าทำให้ท็อปเกลียดนุ่นไปมากกว่านี้” มันเป็นคำที่แบบเชือดเฉือนใจทุกวัน แต่อีกฝ่ายกับไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลย
ไม่เคยร้องไห้ ปาร์ตี้ทุกวัน จนพอนานเข้าท็อปเลยถามตัวเองว่าอยากจะอยู่กับคนที่ใช่หรือจะอยู่กับคนที่เค้ารักเราจริงๆ เหมือนหมาจนตรอกที่ไม่เหลือใคร
เลยกลับไปหาสาวนุ่น จากนั้นทั้งคู่ก็เลยเริ่มปรับตัวเข้าหากันอีกครั้ง รับฟังกันมากขึ้น นำสิ่งที่ผิดพลาดมาทำอะไรให้มันดีขึ้น จนตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันมา 8 ปี
แล้ว ไม่นานมานี้ นุ่น ศิรพันธ์ คิดการใหญ่ มองไกลถึงวัย 55 / หลังการให้สัมภาษณ์ว่าอยากทำหมัน สำหรับนักแสดงสาว นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา และสามี
ท็อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร คู่รักที่รู้จักกันมายาวนานกว่า 13 ปี แม้ว่าทั้งคู่จะหวาน จนหลายคนเชียร์ให้มีบุตร แต่ยังไงเจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่อยากมีล่าสุดวันที่
3 พ.ย.63 นุ่น เดินทางมาร่วมงาน “New Gen Hug บ้านเกิด” ที่ ธนาคารเพื่อ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานใหญ่ บางเขน โดยให้สัมภาษณ์
ถึงชีวิตบั้นปลาย ที่อยากจะไปหาบ้านพักชราในวัย 55 ปี เพื่อความสะดวกสบาย เอื้ออำนวยต่อการแพทย์ สำหรับสังคมผู้สูงอายุ และบุคคลที่ไม่มีลูกอะไรที่เป็นเรื่อง
ที่ขัดแย้ง? “ส่วนมากเป็นเรื่องวิธีคิด เราจบวิศวกรรม เราก็จะคิดแบบตรรกะ คิดแบบแข็งๆ พี่ท็อปจบสายอาร์ต เขาก็จะไปแบบสุนทรียะ อารมณ์สุนทรี ละเอียด เป็นพวก
มองภาพกว้าง แค่นี้มันก็คิดคนละแบบส่วนมากเถียงกันด้วย”แสดงว่าต่างคนต่างใช้เหตุผลคุยกัน? “การคุยกันด้วยเหตุผลเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเลย ค่ะ” เรื่องงานมันกระทบเรื่อง
ความรักไหม? “ไม่อย่างที่บอก พอรู้เช่นเห็นชาติกันแล้ว พอแต่งงานกันเราไม่ทะเลาะกันเลย มันเหมือนจูนกันมาแล้ว ชิว” มีวิธีแยกแยะยังไงเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว?
“เธอแยกไม่ได้หรอก(หัวเราะ) อันนี้พูดจริง แยกไม่ได้แต่ถ้าสมมติว่าเราเข้าใจซึ่งกันและกัน และเอาเหตุผลมาคุยกันน่าจะดี มันตัดยากนะ มันน่าจะเป็นภาคปฏิบัติ ” เรียกว่าขาเตียงเราแข็งแรง?
“ขาเตียงเราแข็งแรงค่ะ(ยิ้ม)” แสดงว่าก็มีการวางแผนการใช้ชีวิตบั้นปลาย 2 คนแล้ว? “เราวางแผนไว้ว่าเราจะไปหาบ้านพักคนชรา เพราะตอนนี้เราถึงวัยที่ต้องพาคุณพ่อคุณแม่ไปโรงพยาบาล แล้วรู้สึกว่าถ้าถึงเวลาของเราไม่มีใครไปส่งแน่เลย เพราะฉะนั้นเราต้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อำนวยต่อการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ไม่มีบุตร”
กลับหลายคน ที่มองว่าการไปอยู่บ้านพักคนชราไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ?“ไม่นะ น้องที่อยู่ในโปรเจ็กต์เดียวกับนุ่น เคยทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีข้อบ่งชี้ข้อหนึ่งบอกว่าผู้สูงอายุ ผู้สูงวัยถ้ามีการปฏิสัมพันธ์ มีคนคุยด้วยจะทำให้ตื่นตัว สมองได้ใช้งาน ต่างกับการอยู่คนเดียวจะทำให้สมองไม่ได้ใช้งาน จะพูดแต่เรื่องเดิมๆ”
