บอสพอล ยอมรับคลิปเสียงดีดนิ้วเคลียร์คดีเรียกเงิน เป็นเสียงตัวเองจริง

บอสพอล รับคลิปเสียงดีดนิ้วเคลียร์คดี เป็นเสียงตัวเองจริง หลังถูกนักร้องเรียนขู่กรรโชกทรัพย์ ส่วนคลิปเทวดาสคบ.นั้น เป็นเทวดาเจ้าที่เจ้าทางไม่เคยติดสินบนใคร

วันที่ 14 ต.ค.67 วันนี้ใน รายการโหนกระแส ซึ่งมีหนุ่ม กรรชัย เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการพูดคุยถึงคดีดิไอคอน โดยมีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งมาร่วมพูดคุย พร้อมกับ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป มาร่วมรายการ ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดใจเป็นที่แรก

1728892672907

บอสพอล ยอมรับคลิปเสียงติดสินบนเทวดา สคบ.เป็นเสียงของตัวเองจริง โดยบอกว่าคุยกับทีมงานที่ ชื่อน้องฮัท ตัวแทนขายที่มีเรื่องร้องเรียนกับตน ก่อนที่ หนุ่ม กรรชัยจะถามว่า แล้วเทวดาที่พูดถึงคือใคร บอสพอล ตอบว่าเป็นเทวดาจริงๆเพราะมีความเชื่อด้านนี้

ยืนยันว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เวลาไปที่ไหนก็แล้วแต่ต้องไหว้เจ้าที่เจ้าทางบ้าง แต่ถ้าสำหรับในหน่วยงานราชการ ตนว่าไม่ใช่แค่เจ้าที่เจ้าทางถ้ามันใหญ่มาก ก็อาจจะมีศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ ซึ่งอันนี้ก็เป็นเทวดา ในความเชื่อของตนก็ตามคลิปที่พูดเลย เทวดาท่านก็ไม่ได้กินเอ็ม 150 หรือข้าวเหมือนพวกเรา ท่านก็กินบุญ ตนก็เลยบอกว่าถวายบุญให้ท่านนะ

เป็นสิ่งที่ตนสอนน้องในทีม เทวดาก็กินบุญ คนก็กินบุญ ประมาณว่าเราอ่ะมีโอกาสทำบุญ แต่เทวดาเค้าไม่มีโอกาสทำบุญแล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คืออุทิศให้เขา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการติดสินบนใคร คลิปดังกล่าวไม่ได้ติดสินบนใคร

ก่อนที่หนุ่ม กรรชัย จะระบุว่ามีพยานว่ามีคนเอากระเป๋าหรูไปให้บุคคลในนั้น คล้ายเป็นการวิ่งเต้น บอสพอล บอกว่าตนไม่รู้จะวิ่งเต้นทำไม เพราะว่าเวลาไปติดต่อหน่วยงานราชการ ก้ติดต่อตามขั้นตอนปกติอยู่แล้ว

1728892696109

ส่วนกรณีที่มีพยานให้ข้อมูลรวมถึงมีภาพของบอสพอล ที่สนิทกับอดีตคนเคยใหญ่ใน สคบ.มีภาพไปทำบุญด้วยกัน บอสพอล บอกว่าตนมีเพื่อนในหลายๆวงการที่ทำบุญด้วยกัน เพราะตนชอบเดินสายทำบุญอยู่แล้ว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเพื่อนตนแต่ละคนมีอาชีพอะไรบ้าง

ก่อนจะระบุว่า ที่ผ่านมาเคยถูกเรียกรับเงินเป็นประจำ มาทุกทิศทุกทาง ทนายบ้าง นักร้องเรียนบ้าง

ส่วนคลิปที่มีการเอามาแฉว่า บอสพอล มีการต่อรองกับนักการเมืองเพื่อให้ช่วยเคลียร์อะไรบางอย่างนั้น บอสพอล ยืนยันว่าเป็นเสียงตัวเองจริง ส่วนคนที่สนทนาด้วยตนขอไม่พูดชื่อ เพราะไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน

บอสพอล ร่ำไห้ กลางรายการดัง ตัดพ้ออยากมาตอนมีชีวิตอยู่

บอสพอล ร่ำไห้ กลางรายการดัง ตัดพ้ออยากมาตอนมีชีวิตอยู่

เปิดข้อกฎหมาย บุคคลไม่ใช่หมอแต่ทำท่าตรวจร่างกาย ฟังเสียงหัวใจ มีโทษจำคุกกี่ปี

เปิดข้อกฎหมาย บุคคลไม่ใช่หมอแต่ทำท่าตรวจร่างกาย ฟังเสียงหัวใจ มีโทษจำคุกกี่ปี

สำหรับคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังถูกดำเนินคดีตอนนี้ บริบทตอนนั้นก็คือว่าตอนนั้นตนถูกตีด้วยนักร้องเรียน เขาบอกว่าเขาจะร้องเรียนด้วยหัวข้อเหล่านี้ๆ ถ้าไม่อยากให้เขา ต้องให้จ่ายเท่านี้ๆ ตนก็เลยบอกว่าจะทำยังไงกับคนพวกนี้ ยืนยันว่าให้คนในคลิปเดือนละ 100,000 จริง แต่ไม่ใช่ทุกเดือน แต่ไม่เคยมีใครมาเรียกเงิน 30 ล้าน มีแค่ 3 ล้าน หรือ 1 ล้าน ที่ผ่านมาก็ยอมจ่ายเพราะว่าไม่อยากมีปัญหากับใคร

ส่วนที่มีการร้องเรียนอยู่ทุกวันนี้ คาดว่าเกิดมาจากมีตัวแทนกลุ่มหนึ่งที่ถูกขายของตัดราคา จึงไปตั้งกลุ่มแล้วก็เริ่มประโคมไฟในกลุ่มและส่งข้อมูลต่างๆที่เค้ารู้สึกว่าอันนี้น่าจะเอาผิดเราได้ เอามาประณามได้ ก็เลยส่งให้เพจต่างๆ

ช่วงท้ายรายการ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรได้ถามคำถามสุดท้ายว่า รายได้ของการจ้างนักแสดงรายปีหรือรายเดือน

ก่อนที่บอสพอล จะถามย้อนไปว่า คนไหน เพราะว่าแต่ละคนการจ้างจะไม่เหมือนกัน โดยบอกว่า บอย ปกรณ์ นั้นจ้างเป็นรายปี สัญญาเป็นรายปี ส่วนกันต์ กันตถาวร สัญญา 5 ปี

หนุ่ม กรรชัย ถามว่าแล้วผลตอบแทนเป็นอย่างไร บอสพอล บอกว่า กันต์ จ่ายให้ทุกๆเดือนตามยอดขายสินค้า ส่วนมิน พีชญา ก็ให้ทุกๆเดือนตามยอดขาย แต่ว่าน้อยกว่ากันต์ ส่วนแซม ยุรนันท์ ก็ได้จากยอดขาย แต่ละเดือนเหมือนกัน

ส่วนบอย ปกรณ์ และ และ โดม ปกรณ์ ลัม จะคนเป็นอีกแบบ เขาไม่ได้เป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้าทุกตัว ถ้าเป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้าตัวเดียวก็จะรับแค่ตัวเดียว มันคิดง่ายมาก ก็เลยคิดเป็นปีนึงเท่าไหร่ก็จ่ายไป แต่พอเป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้าทุกตัว มันคิดยากมันขึ้นอยู่ว่าเดือนนี้ตัวไหนขายดีตัวไหนขายน้อย ก็แปลว่าเอาตามจริงเลยของแต่ละเดือน เอายอดขายจริงของแต่ละเดือน มารวมกันแล้วจ่ายให้ทุกเดือน

ขอบคุณข้อมูล-ภาพ :รายการโหนกระแส