สุดเห็นใจ ภรรยาถึงกับน้ำตาไหล เห็นสามี เอ วีระชัย นอนร้องไห้ ไม่มีงานละคร ย้ำไม่อายขายหมูสะเต๊ะ

เรียกได้ว่าตอนนี้ดารานักแสดงหลายคนได้รับผลกระทบจากวงการละครกันอย่างมากหนึ่งในนั้นคือนักแสดงรุ่นใหญ่ เอ วีระชัย หัตถโกวิท โดยล่าสุด ตั๊ก บริบูรณ์ ได้เดินทางมาช่วยอุดหนุนร้านหมูสะเต๊ะ เอ วีระชัย ยอมรับว่า หลายช่องไม่ทำละครเลย ก็ต้องหาอาชีพเสริม

ทางด้าน ตั๊ก บริบูรณ์ ได้เล่าว่า เดินอยู่ในกองถ่ายตั้งแต่วัยรุ่น มีงานละครกัน ตอนนั้น พี่เอ เฟี้ยวมาก กระทั่งห่างกันไป ไม่ได้เจอกันอีกเลย ได้ยินข่าว เศรษฐกิจด้วย ช่องก็ปลดพนักงานด้วย ดารา นักแสดงก็ได้ผลกระทบด้วย

เอ วีระชัย : ไม่คิดว่าตัวเองจะตกงาน เราทำงานมา เราระเบียบเป๊ะ อยู่ดีๆก็มาตกงาน ก็เลยงงมันมีแบบนี้ด้วยเหรอ ก็โทรไปหาผู้จัดที่สนิทๆกัน ช่วงนี้พี่ไปหาอะไรทำก่อน เฮ้ย มันเป็นขนาดนั้น จริงพี่ พี่ไปหาอะไรทำก่อน

พี่ตกงานจริงๆด้วย แล้วเงินส่วนใหญ่ จากเงินเล่นละครที่พยุงเรามา บ้านก็เพิ่งซื้อด้วย จะเอาเงินที่ไหน ก็เครียดอยู่พักหนึ่ง โควิดแรกๆ ก็ยังมีละครอยู่ ไม่คิดว่าผลกระทบจะขนาดนี้ ก็มาซื้อบ้าน กะว่าพอได้ ขายของผสมผสานกัน อยู่ดีๆ งานละครมันไม่มี

ถามว่าวันหนึ่งต้องมายืนปิ้งหมูสะเต๊ะพี่อายเขาไหม

เอ วีระชัย : พี่เฉยๆ

ตั๊ก บริบูรณ์ : อันนี้ผมชอบ เพราะตอนผมสิบขวบ ก็ยืนหมักหมูปิ้งกับแม่

เอ วีระชัย : คนบางคนก็ยังพูดเป็นดาราแล้วมาขายหมูสะเต๊ะ จะเอาเงินไปเก็บที่ไหน จะบ้าเหรอ มีเงินเก็บแล้วจะมาขายหมูสะเต๊ะทำไม มันไม่มีมันถึงมาขาย บางคนก็ชอบพูด ถ้าพี่ไม่มีตังค์แล้วผมจะมีเหรอ คนชอบคิดว่าเราไม่เก็บตังค์มั่ง เราก็ต้องสู้

ถามว่าตอนพี่ไม่มีงาน แฟนพี่ก็ชวนมาทำนี่สิ แฟนพี่ดีมาก

ภรรยาเอ วีระชัย : รับหมดงานการ เพื่อนฝูงที่รู้จักกัน ซ่อมไฟ พี่เอ ทำได้ไหม ทำได้

ถามว่าวันที่เขาท้อแท้ฐานะเราเป็นเมียได้บอกอะไรบ้าง

ภรรยาเอ วีระชัย : เป็นคำพูดทั่วไป แต่บางครั้งคนเราบอกว่า มันสู้แล้วไม่เห็นจะดี สู้แล้วก็ยังเหมือนเดิม บางทีมันก็ท้อ เข้าใจบางทีเขาบอกเขานอนร้องไห้ เครียด แต่เขาพยายามไม่ให้เราเห็นหรอก เหมือนเขาแข็งแรง