ก็ต้องบอกเลยว่ากลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาในทันที หลัง จีกามิน ติ๊กต็อกเกอร์สาวชาวเกาหลีใต้ อดีตแฟนสาวของ พระเอกหนุ่ม อย่าง แน็กชาลี ที่ในครั้งนี้เธอได้เดินทางกลับมาประเทศไทยอีกครั้งเพื่อขอชี้แจงแถลงไขเพื่อพิสูจน์ความจริงในทุกข้อกล่าวหาพร้อมกับขอกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองคืนกลับมา แต่ทว่าเมื่อเธอได้เดินทางมามาถึงประเทศไทย ก็ไม่วายเกิดดราม่าอีกหน
โดยปมร้อนดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก0ารรอต้อนรับของเหล่าแฟนคลับชาวไทยของกามิน ที่ดูไม่ค่อยเหมาะสมเสียเท่าไหร่ จึงทำให้ภาพดังกล่าวที่ได้ถูกเผยแพร่ผ่านโลกโซเชียลไปได้ไม่นาน ก็ได้จุดกระแสดราม่าพร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องดังกล่าวในทำนองว่า ป่านนี้คนเกาหลี คงนั่งขำคนไทยกันใหญ่แล้ว ทั้งนี้ยังมีความคิดเห็นอื่นๆที่พูดถึงเรื่องดังกล่าวหลายแง่มุมกันเลยทีเดียว
อาทิ ในฐานะคนไทย อายมาก คนต่างชาติที่เขามองมา เขาไม่ได้มองแค่คนกลุ่มนั้น มันกลายเป็นคนไทยทั้งหมด ภาพลักษณ์ไทยเสียหมด บางรายก็กล่าวว่า ถ้าภาพนี้เป็นข่าวไปทั่วโลก แล้วฝรั่งถาม ผมคงต้องอ้างเป็นลูกครึ่งไปพักใหญ่ ทั้งอาย ทั้งสมเพชตัวเองแทนคนกลุ่มนี้จริงๆ รอรับเสด็จท่ากามิน..หัวจะปวด ถึงว่าเกาหลีมันดูถูกไทย555 คนไทยเป็นอะไรไป นั่งอย่างกับรับเสด็จ เกินไปไหม ดาราเกาหลีมาไม่ขนาดนี้นะครับหนักแล้วคนไทย
อย่างไรก็ตาม การเดินทางกลับมาประเทศไทยครั้งนี้ ของด้านสาวจีกามินก็ได้มีจุดประสงค์ที่ชัดเจน เนื่องจากมีรายงานมาจาก ทางด้าน โจ มณฑานี ว่าด้านกามินเตรียมบินกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง โดยจะเตรียมแถลงข่าวในวันพุธ ที่ 6 พฤศจิกายนนี้ เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมศรีนครินทร์ เพื่อขอพิสูจน์ความจริง พร้อมเรียนเชิญบรรดาสื่อมวลชนทุกท่านร่วมงานแถลงข่าวกามินกลับมาเพื่อพิสูจน์ความจริง กอบกู้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเกียรติของลูกผู้หญิงกลับคืนมา โดยกามินได้ร่วมมือกับทาง ทนาย พรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ณ โรงแรม Grand Four Wings Concention ศรีนครินทร์
ซึ่งก่อนหน้าที่ด้านสาวกามินจะถึงประเทศไทย ทางด้าน โจ มณฑานี ก็ได้มีการเคลื่อนไหวพร้อมระบุข้อความผ่านโพสต์ ในทำนองว่า กามินยังไม่ทันเหยียบผืนแผ่นดินไทย ก็มีหลายกลุ่มคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงขู่อาฆาตปองร้ายต่างๆนาๆ ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติมว่า น่าเห็นใจด้านสาวกามินเป็นอย่างมากที่เป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆที่อยากมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองแต่กลับมีคนข่มขู่คุกคาม จะทำร้ายเธอแบบเปิดเผยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง อีกทั้ง ยังใส่ร้ายป้ายสีทนายซะแล้ว โดยหลังจากนี้จะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไปนั้น โปรดติดตามอัปเดตข่าวเพิ่มเติมไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
