ผอ.ไล่ออกแล้ว ครูสาวถูกบุกทวงหนี้ถึงโรงเรียน

จากกรณีเหตุการณ์ แก๊งเงินกู้ ควงปืนบุกทวงหนี้ในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในยามวิกาล แบบไม่ยำเกรงกฎหมาย ด้วยอัตราดอกเบี้ยมหาโหด ร้อยละ 60 ต่อ 5 วัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัว 2 เจ้าหนี้มหาโหดดังกล่าว พร้อมอาวุธของกลาง นำส่ง ร.ต.ท.กิตติพงศ์ ปัญญามูล พงส.สภ.เมืองน่าน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีและพกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และข่มขู่ใด้ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ

ล่าสุดวันนี้ 30 มกราคม พล ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก ภ.จว.น่าน พร้อมด้วย ผู้เสียหายครูแป๋มลูกหนี้ และ นางกานต์รวี แก้ววี ผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชน ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเรื่องจบด้วยดี เป็นเรื่องเข้าใจผิดไม่ใช่แก็งค์เงินกู้ เป็นการยืมเงินกันเท่านั้น

โดยครูแป๋มลูกหนี้ ชี้แจงว่า ขณะนี้ได้คืนเงินที่เป็นหนี้ทั้งหมด กับเจ้าหนี้เรียบร้อยแล้ว และได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ในส่วนของวันเกิดเหตุด้วยความตกใจจึงได้ส่งขอความไปขอความช่วยเหลือ แต่จริงแล้วก็รู้จัก 2 คนนั้นเป็นอย่างดี เพราะเป็นทำงานอยู่ร้านล้างรถหน้าโรงเรียน และเป็นการยืมเงินกันเท่านั้น ส่วนรถจักรยานยนต์ที่เจ้าหนี้ยึดไปวันนั้น ก็เป็นข้อตกลงกันตั้งแต่ที่ไปยืม ที่ผ่านมาเจ้าหนี้ก็ไม่เคยมาข่มขู่ทวงหนี้ในลักษณะนี้เลย อาจด้วยดื่มมา มึนเมาเลยมีอารมณ์โมโหก่อเหตุดังกล่าว

ด้านนางกานต์รวี แก้ววี ผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชน ยอมรับว่าบุคคล 2 คนที่เข้ามาทวงหนี้ครูในโรงเรียน เป็นลูกน้องของตนที่ทำงานอยู่ร้านคาร์แคร์ ซึ่งตนเองเป็นเจ้าของ แต่ไม่ทราบว่ามีการยืมเงิน คิดดอกเบี้ยกันอย่างไร และที่ผ่านมาครู เจ้าหน้าที่โรงเรียนก็ใช้บริการ เรียกทั้งคู่มารับรถไปล้าง จึงเป็นที่รู้จักเพราะเข้าออกโรงเรียนอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้ยอมรับในความผิดพลาดที่หละหลวมของโรงเรียน ไม่มี รปภ. เพราะเพิ่งไล่ออกไปเนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อีกทั้งที่ผ่านมาโรงเรียนก็ไม่เคยปิดประตูโรงเรียนเลยตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนี้ทางโรงเรียนจะได้มีมาตรการเข้มขึ้นทั้งการติดกล้องวงจรปิด การคัดบุคคลเข้าออกโรงเรียน ส่วนของครูแป๋ม ลูกหนี้เหตุการณ์นี้ เบื้องต้นได้ให้ออกจากการเป็นครูของโรงเรียน เนื่องจากผู้ปกครองเป็นกังวลว่าหากยังอยู่ในโรงเรียน จะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้อีก

พล ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก ภ.จว.น่าน กล่าวเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ถึงจะจบกันด้วยดี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งความเพิ่มกับ 2 เจ้าหนี้ ตามพ.ร.บ.ห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา และการทวงเงินในยามวิกาล และในส่วนประเด็นเรื่องเบอร์โทรศัพท์ของผู้แจ้งเหตุหลุดจนเป็นเหตุให้เกิดการคุกคามนั้น ขอยืนยันแน่นอนว่าไม่ได้เกิดจากศุนย์รับแจ้งเหตุ 191 แน่นอน แต่พร้อมให้ความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยหากถูกคุกคามข่มขู่ ทั้งนี้ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือ มีการทวงหนี้ผิดกฎหมาย หรือมีการปล่อยเงินกู้นอกระบบที่เกินอัตราที่กำหนดไว้ สามารถมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาหลายรายใช้วิธีไกล่เกลี่ยไม่ประสงค์ดำเนินคดี ก็สามารถทำได้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการหารือกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *