วันที่ 25 ม.ค.2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26–28 มกราคม 2568) ฉบับที่ 3 (24/2568)
ความว่า ช่วงวันที่ 26-28 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 3–5 องศาเซลเซียส
ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก จะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2–3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง
ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27–28 ม.ค. 68
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กรมอุตุพยากรณ์ สภาพอากาศวันนี้
ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาหลายพื้นที่ โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า
สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งบริเวณยอดดอย ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 26-28 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3–5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 2–4 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2–3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้ : การระบายของอากาศไม่ดีและลมอ่อน ทำให้การสะสมของฝุ่นอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างมากถึงมาก
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาหลายพื้นที่
อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
ทางตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง 20 ของพื้นทืี่
ส่วนมากบริเวณ จังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.